จังหวัดภูเก็ตบุกแดนภารตะ ชวนบินตรงมาปาร์ตี้ ห้องพักหลากหลาย ไนท์ไลฟ์สนุกสุดเหวี่ยง เน้นดูแลความปลอดภัยรอบเกาะ ในงาน SATTE 2020 ณ ประเทศอินเดีย

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ อบจ.ภูเก็ต นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวกว่า 15 ราย โรดโชว์ส่งเสริมการขาย ในงาน  South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2020 ณ ประเทศอินเดีย เจาะกลุ่ม 3 เมืองหลัก นิวเดลี โกลกาตา และมุมไบ บินตรงมาสัมผัสจุดขายโดนใจ ทั้งปาร์ตี้สนุกสนาน ห้องพักหลากหลาย และ Nightlife Entertainment เน้นการดูแลความปลอดภัยรอบเกาะ หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวภูเก็ตอย่างยั่งยืน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

วันที่ 7 – 15 มกราคม 2563 สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) นำผู้ประกอบการที่พักและท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมงาน South Asia’s Leading Travel show (SATTE – ซาเต๊ะ) 2020 ณ India Expo Mart & Greater Noida กรุงนิวเดลี ในวันที่ 8 – 10 มกราคม 2563 และเมืองโกลกาตา และเมืองมุมไบ ประทเศอินเดีย ในระหว่างวันที่ 13-14 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นงานจับคู่ธุรกิจ (Business to Business – B2B) ด้านการเดินทางและท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ทางสมาคมฯ ได้เข้าร่วมงาน  โดยมี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสมาคมฯ และสื่อมวลชนภูเก็ต เข้าร่วม

ในภาพอาจจะมี 8 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน

นายไกรวุฒิ คุ้มบ้าน สมาชิกสภาองค์การส่วนบริหารจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในนามองค์การส่วนบริหารจังหวัดภูเก็ต ได้สนับสนุนงบประมาการจัดทำโรดโชว์ ในหลายประเทศ ในครั้งนี้เลือกประเทศอินเดีย เนื่องจากเป็นประเทศใหญ่และมีประชากรเยอะ และชาวอินเดียก็มีความสนใจมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต คิดว่าการมาโรดโชว์ครั้งนี้จะได้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเแน่นอน  และอยากให้ชาวภูเก็ตช่วยกันดูแลด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว  เพราะจังหวัดภูเก็ตเปรียบเสมือนไข่มุกแห่งอันดามัน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าใครก็ตามได้ไปท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ก็จะได้รับความสุขสนุกสนานและได้ความปลอดภัยกลับบ้าน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน

นายสมคิด สุภาพ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า ทางอบจ.ภูเก็ตมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป อาเซียน หรือโดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งปัจจุบันอินเดียก็มีเที่ยวบินตรงมายังภูเก็ต ทั้งนิวเดลีและมุมไบ จะเห็นว่าแต่ละเที่ยวบินจะมีชาวอินเดียอยู่ค่อนข้างจะเต็มทุกเที่ยวบิน ด้านการดูแลความปลอดภัย ก็มีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ช่วยกันดูแล ทั้งความปลอดภัยทางท้องถนน ความปลอดภัยทางทะเล อย่างต่อเนื่อง  และคิดว่าในโอกาสข้างหน้าคงจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเข้ามายังภูเก็ตมากขึ้น

ในภาพอาจจะมี 8 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

ด้านนายสุกฤษ โกยอัครเดช อุปนายกฝ่ายการตลาดต่างประเทศ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต  กล่าวว่า ในการมาทำธุรกิจครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง คือมา Trade Shows ณ เมืองนอยด้า ซึ่งเป็นเมืองบริวารของกรุงนิวเดลี ที่ India Expo Mart เป็นส่วนของ Exhibition หรือเป็น Trade Shows หลังจากนั้นก็ไปที่นครโกลกาตาและนครมุมไบ ซึ่งสองเมืองหลังก็จะเป็นงาน Road Show เหตุผลในการที่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยความร่วมมือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เลือกสามเมืองนี้ก็เพราะว่า สามเมืองนี้ค่อนข้างครอบคลุมประเทศอินเดีย โดยอันดับที่ 1 มากรุงนิวเดลีเพราะว่ากรุงนิวเดลีเป็นเมืองที่จัดงานซาเต๊ะอยู่แล้ว คือมีประชากรมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศอินเดีย เป็นศูนย์รวมของราชการและธุรกิจ เมืองที่ 2 ที่เลือกไป Road Show ที่นครโกลกาตา ก็เพราะตามประวัติศาสตร์นอกจากจะเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศอินเดียแล้วยังจะเป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก แล้วก็มีนัยยะความสำคัญด้านการค้าครอบคลุมฝั่งตะวันตก ส่วนเมืองสุดท้ายที่เลือกคือเมืองมุมไบ เนื่องจากมี ททท.ประจำอยู่ที่นครมุมไบ  และนครมุมไบยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน และมีประชากรมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศด้วย

ในภาพอาจจะมี 5 คน, ผู้คนกำลังนั่ง

ทั้งนี้ จุดขายหรือจุดเด่นของภูเก็ตทีนักท่องเที่ยวอินเดียให้ความสนใจ คือ คนอินเดียเป็นคนที่ชอบดื่มชอบทาน ชอบสังสรรค์เฮฮา จังหวัดภูเก็ตเองได้รับเมืองสร้างสรรค์ทางด้านอาหาร หรือว่า Creative City Of Gastronomy เพราะฉะนั้นเชื่อมั่นว่าจังหวัดภูเก็ตเองจะสามารถตอบสนองความหลากหลายด้านอาหารให้กับคนอินเดียได้ นั่นคือประการที่หนึ่ง ประการที่สอง จังหวัดภูเก็ตเองมีห้องพักหลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนอินเดียได้ทุกระดับ ประการที่สาม คือ จังหวัดภูเก็ตมี Nightlife Entertainment ที่ขึ้นชื่อระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นหาดป่าตอง ไล่ลงมาถึงหาดกะตะ กะรน ส่วนอันสุดท้ายคงจะบอกว่าวัฒนธรรมหรือเสน่ห์ของภูเก็ต หาดทรายที่สวยงามก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียให้มาที่จังหวัดภูเก็ตได้ มี Direct Flight จาก 3 เมือง โดยสายการบิน GoAir มี 3 ไฟล์ตต่อวัน จากกรุงนิวเดลี จากนครมุมไบ จากนครโกลกาตา ไฟล์ทหนึ่งก็ประมาณ 200 คน วันหนึ่งก็ 600 คน ส่วนสายการบิน Indigo ก็บินจากกรุงนิวเดลีมาที่จังหวัดภูเก็ตโดยตรง สรุปว่าเป็น Low Cost Carrier เพราะฉะนั้นเราเชื่อมั่นว่าจะตอบสนองให้กับกลุ่มระดับกลาง ครอบครัว กลุ่ม FIT ที่สนใจที่จะเที่ยวด้วยตนเอง รวมถึงกรุ๊ปที่ต้องการราคามิตรภาพ ราคาไม่แพง ปีนี้ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้รับความอนุเคราะห์จาก ททท.ให้มาร่วมงานได้ 15 หน่วยงาน ก็แบ่งเป็นโรมแรม ที่พัก 10 หน่วยงาน เป็น Excursion 3 หน่วยงาน เป็น Night Light Cabaret 1 หน่วยงาน แล้วก็เป็น บริษัทจัดการจุดหมายปลายทางการประชุมและแหล่งท่องเที่ยว (DMC – Destination

ในภาพอาจจะมี 5 คน, คนที่ยิ้ม, ฝูงชน

Management Company 1 หน่วยงาน รวม 15 หน่วยงาน พัทยามา 15 หน่วยงาน แล้วก็ที่เหลือประมาน 58 หน่วยงาน ที่มาจากทั่วประเทศไทย รวมแล้ว 88 หน่วยงาน ถ้าเปรียบเทียบกับปีที่แล้วมีอยู่ประมาณ 60 หน่วยงาน ซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้น ซึ่งความคาดหวังของสมาคมฯ ในยามที่เศรษฐกิจขาลงอย่างนี้ ก็คาดหวังว่าตลาดอินเดียจะเป็นตลาดที่สำคัญในการที่จะเติมเต็มสินค้าและบริการในจังหวัดภูเก็ต ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ฉะนั้นความคาดหวังของสมาคมเองก็มองว่าตลาดอินเดียจะเป็นกำลังสำคัญในการที่จะมาส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจภูเก็ตให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ในภาพอาจจะมี 6 คน, ผู้คนกำลังนั่ง

ส่วนนายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับงานซาเต๊ะ เป็นงานส่งเสริมการขายในเมืองเดลี ประเทศอินเดีย  ซึ่งงานนี้มีผู้ประกอบการจากประเทศไทยเข้าร่วมงานประมาน 80 กว่าราย เพื่อจะพบปะกับผู้ประกอบการฝั่งอินเดีย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจัดงาน 3-4 วัน จะมีผู้ประกอบการจากอินเดียเข้ามาพูดคุย เพื่อสร้างช่องทางการตลาด การเจรจาธุรกิจกันประมาณวันละเกือบหมื่นราย ฉะนั้นภาคเอกชนไทยที่มากันคราวนี้ ถือเป็นโอกาสที่จะขยายตลาด สร้างความสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยวของเรานั้นดีขึ้น อินเดียปัจจุบันเป็นตลาดนักท่องเที่ยวตลาดที่สำคัญของประเทศไทย ปัจจุบันเรามีนักท่องเที่ยวปีที่ผ่านมา คือปี 2562 มีอินเดียอยู่ประมาณ 1,950,000 คน

ในภาพอาจจะมี 14 คน, ผู้คนกำลังนั่ง และ สถานที่ในร่ม

ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมาเกือบ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ โดยทั้งจำนวนและรายได้ ก็ถือเป็นตลาดที่มีคุณภาพและมีการเติบโตที่ดี ทั้งนี้จากปัจจัยหลายอย่าง ด้วยการขนส่ง ส่วนหนึ่งมีสายการบิน ที่บินจาก 13 เมืองของอินเดียเข้าสู่ประเทศไทย มีที่นั่งประมาณ 65,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ ที่ขนส่งนักท่องเที่ยวเข้าไป แต่ 65,000 ที่นั่ง เพราะว่าด้วยศักยภาพของประเทศไทยเราเป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปทั่วโลก ก็เลยมีการต่อไฟล์ทก็จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นในโอกาสข้างหน้าและในปีถัดไปก็ยังมีอัตราเติบโตที่ดีอยู่สำหรับตลาดอินเดีย ก็เป็นตลาดที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการฝ่ายไทยที่ไม่น่าพลาดที่จะเข้าร่วมงานในการส่งเสริมการขาย  ซึ่ง ททท. ไม่ได้ทำแค่นี้เรื่องของการส่งเสริมการขาย ยังมีในเรื่องของกิจกรรมโรดโชว์ กิจกรรมเรื่องของแฟมทริปต่าง ๆ กิจกรรมโปรโมชั่นผ่านเรื่องของ TOA การทำโปรโมชั่นผ่านสายการบินหรือว่าร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ของอินเดียตลอดทั้งปี ก็จะทำให้โอกาสในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายและเป็นโอกาสที่ดีสำหรับของประเทศไทยเรา

ในภาพอาจจะมี 2 คน, คนที่ยิ้ม, สถานที่ในร่ม

ด้านตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรม นางสาวกนกกร พฤกษกิจ ผู้บริหาร The Vijitt Resort พูดถึงการมาโรดโชว์ในครั้งนี้ว่า เป็นครั้งแรกของ The  Vijitt Resort ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ก่อนหน้านี้ทางเดอะวิจิตร อาจจะมีกลุ่มลูกค้าตลาดนี้ไม่มาก แต่ปีที่แล้วก็เห็นตัวเลขที่โตขึ้น แล้วก็คิดว่าน่าจะมีโอกาสที่จะต้อนรับลูกค้าจากประเทศนี้ ก็ถือว่าดีเพราะถือว่าเป็นรีสอร์ทใหม่สำหรับเขาเลย เพราะว่าเราไม่เคยมาทำตลาดทางนี้ จึงคิดว่ากลับไปน่าจะมีลูกค้าจากตลาดนี้เยอะขึ้น

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง และ สถานที่ในร่ม

นายอนุชา ตาเมืองใจ ผู้จัดการแผนกขายและการตลาด Tiger Kingdom กล่าวถึงการมาในครั้งนี้ว่า Tiger Kingdom มางานซาเต๊ะและโพสซาเต๊ะ ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเป็นครั้งแรก รู้สึกโอเคมาก ๆ ที่ได้มางานนี้ รู้สึกดีที่ได้มางานนี้เพราะว่ามีคนอยากมาเยอะมาก และก็สิ่งที่ได้รับกลับไปคือได้คอนเนคชั่นใหม่ ๆ และได้เจอกับเอเจนซี่ที่เคยได้แต่พูดคุยกันผ่านทางอีเมลบ่าง ผ่านทางโทรศัพท์บ้าง พอมางานนีได้เจอเกือบครบเลย อีกทั้งยังได้คอนแทคใหม่ ๆ กลับไปเยอะเลย จึงคิดว่าโอกาสหน้าต้องมาอีกให้ได้