“จีโคเอกซ์” เปิดตัวศูนย์แลกเปลี่ยนเงินสกุลคริปโตที่เป็นเงินสกุลเฉพาะสำหรับผู้มีชื่อเสียงระดับโลก
บริษัทเวลธ์ ซิมโฟนี จำกัด บริษัทวางแผนเงินประเทศไทยและสิงคโปร์ ผู้แทนประเทศไทยจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแพลทฟอร์ม จีโคเอกซ์ หรือชื่อภาษาอังกฤษ GCOX ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มการแลกเปลี่ยนเงินสกุลคริปโต ซึ่งสกุลเงินในศูนย์แลกเปลี่ยนนี้ จะเป็นสกุลของเซเลปแต่ละคน และจีโคเอกซ์จะทำการโปรโมทการเสนอขายเหรียญใหม่ (ICO) ให้กับเซเลปที่เซ็นสัญญาแต่ละคนทั่วโลก โดยสามเหรียญแรกคือ แมนนี่ ปาเกียว แชมป์นักมวยระดับโลก ไมเคิล โอเว่น อดีตนักฟุตบอลระดับโลก และ เจสัน เดอรูโล นักร้องอาร์แอนด์บีระดับโลก โดยแนวคิดมาจากการนำเทคโนโลยี บลอกเชนเป็นเทคโนโลยีที่โปร่งใสตรวจสอบได้ มาผสมกับความเฉพาะตัวความแท้จริงของผลงาน ทำให้เหมาะกับการออกสินค้า ลิขสิทธิ์ ทำธุรกิจ การและจัดงานพิเศษเฉพาะของเซเลป อีกทั้งยังส่งมอบเงินบริจาคให้องค์กรการกุศลแบบโปร่งใส ที่สำคัญเป็นการคืนกำไรให้แฟนคลับเพราะแฟนคลับได้รับผลประโยชน์จากมูลค่าของเหรียญที่เพิ่มขึ้นตามธุรกิจและการติดตามผลงานของเซเลปที่ตนเองชื่นชอบ พร้อมทำกิจกรรมร่วมกับเซเลปในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นในที่ใดในโลก
.
จีโคเอกซ์ร่วมก่อตั้งโดย นายลิมโฮวเตก (Mr. Lim How Teck) ผู้บริหารระดับสูงของ เทมาเสก โฮลดิ้ง นายทอมมี โกะ (Mr. Tommie Goh) ผู้บริหารเจไอที โฮลดิ้ง นักธุรกิจแห่งสิงคโปร์ 1999 ชีค คาเลท บิน ฮาซาเยด อัล นายัน เจ้าชายแห่งดูไบ (H.H Sheikh Khaled Bin Zayed Al Nahyan) ร่วมด้วยแมนนี่ ปาเกียว (Manny Pacquiao)และ ไมเคิล โอเว่น (Michael Owen)
.
ในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากคุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการตลาดหลักทรัพย์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ CLSA และวิรัญญา ก่อเกษมสุข ผู้บริหารบริษัทวางแผนเงิน ร่วมให้ความรู้และประโยชน์ของการใช้ระบบบลอกเชนและเงินสกุลคริปโตเพื่อสร้างความเข้าใจและสามารถนำไปต่อยอดกับวงการอื่นๆของประเทศไทยต่อไป
.
วิรัญญา ก่อเกษมสุข ซีอีโอ เวลธ์ ซิมโฟนี กล่าวว่า “ระบบแพลทฟอร์มของจีโคเอกซ์ สามารถช่วยผลักดันศิลปิน เซเลปไทยให้เป็นที่รับรู้ในระดับโลกได้เร็วขึ้น เพราะจีโคเอกซ์ พร้อมนำเซเลปไปเปิดตัวในงานระดับโลกเช่น งานฟุตบอลโลก 2018 เบอร์ลินแฟชั่นวีค 2018 นอกจากนี้ ธุรกิจร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยจะได้ประโยชน์มากขึ้นเนื่องจากเป็นพันธมิตรกับการใช้เหรียญเซเลปบนจีโคเอกซ์แพลทฟอร์ม”
.
“ทุกคนควรศึกษาและทำความเข้าใจว่าเราจะใช้ประโยชน์จากระบบบล๊อกเชน (Blockchain) ได้อย่างไรเพื่อมาพัฒนาการทํางาน ธุรกิจและชีวิตประจำวันของเรา”คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์กล่าวปิดท้าย
