รีเบทแมงโก้ซื้อกิจการดีดีแคชแบ็คในประเทศไทย
เว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์ระบบแคชแบ็คชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทำสัญญาซื้อกิจการดีดีแคชแบ็คเพื่อก้าวเป็นผู้นำในตลาดช็อปปิ้งออนไลน์ของไทยอย่างเต็มตัว
.
บรรยายภาพ: รีเบทแมงโก้นำโดยมร.เจสเปอร์ คอธ(ที่ 2 จากขวา) ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการรีเบทแมงโก้ประเทศไทยและมร.ทราวิส กริฟฟิทส์(ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ร่วมด้วยมร.แอนโทนี ควินน์ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้ร่วมก่อตั้งดีดีแคชแบ็ค, มร.ทอริค บราวน์(ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ลงทุนของดีดีแคชแบ็คและคุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ(ที่ 1 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ TARAD.comและที่ปรึกษาของดีดีแคชแบ็คร่วมทำสัญญาซื้อธุรกิจดีดีแคชแบ็คเพื่อก้าวเป็นผู้นำในตลาดช็อปปิ้งออนไลน์ของประเทศไทย
.
กรุงเทพฯ 6 มีนาคม 2562 –รีเบทแมงโก้ (RebateMango.com) เว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์พร้อมระบบแคชแบ็คคืนกำไรแก่ผู้บริโภคใช้งานง่าย สนุกสนาน และไม่เหมือนใคร ประกาศความสำเร็จในการทำสัญญาซื้อธุรกิจของดีดีแคชแบ็ค (DeeDee Cashback) ซึ่งจะทำให้รีเบทแมงโก้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดช็อปปิ้งออนไลน์ของเมืองไทยอย่างเต็มตัวหลังเริ่มเปิดให้บริการในเมืองไทยเพียงไม่ถึงหนึ่งปี
.
ดีดีแคชแบ็ค ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2558 โดยเป็นเว็บไซต์ช็อปปิ้งที่มีระบบคืนเงินแห่งแรกของประเทศไทย หลังจากการซื้อกิจการครั้งนี้ ผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์จากความคุ้มค่าสูงสุดเมื่อทำการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงได้เข้าใช้งานระบบอีโคซิสเต็มของรีแบทแมงโก้และรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยสามารถเลือกรูปแบบรางวัล (Reward)ได้หลากหลายรูปแบบ
.
รีเบทแมงโก้มีสำนักงานตั้งอยู่ทั่วภูมิภาคทั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ความโดดเด่นที่ทำให้รีเบทแมงโก้แตกต่างจากเว็บช็อปปิ้งแบบแคชแบ็คทั่วโลกคือทางเลือกการคืนกำไรในรูปแบบที่หลากหลายแก่ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ ทั้งในรูปแบบแคชแบ็ค สะสมไมล์ และแต้มแลกของรางวัล ซึ่งทำให้มีผู้ใช้งานรีเบทแมงโก้มากกว่า 1 ล้านรายใน 3 ประเทศ สำหรับประเทศไทย การทำสัญญาซื้อธุรกิจครั้งนี้ถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ซึ่งจะทำให้รีเบทแมงโก้สามารถให้บริการครอบคลุมแก่ผู้ใช้จ่ายระบบอี-คอมเมิร์ซในเมืองไทยได้เกือบ 10%
.
การทำสัญญาซื้อธุรกิจการคืนกำไรให้ลูกค้าครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเอเชีย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาค โดยคาดการณ์ว่าเฉพาะในเมืองไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์ในปีพ.ศ.2564ด้วยจำนวนผู้ใช้จ่ายระบบอี-คอมเมิร์ซในเมืองไทยมากถึง 24.5% ของประชากรทั้งหมด
.
มร.เจสเปอร์ คอธ ผู้ร่วมก่อตั้งรีเบทแมงโก้และกรรมการผู้จัดการรีเบทแมงโก้ประเทศไทยกล่าวว่า “นับเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นอย่างมากสำหรับเราที่ได้ขยายฐานผู้ใช้งานและธุรกิจผ่านแผนสร้างการเติบโตและการพัฒนาของเรา เนื่องจากดีดีแคชแบ็คมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาธุรกิจนับตั้งแต่เปิดตัว และเราต้องการให้ผู้ใช้งานดีดีแคชแบ็คได้เข้าถึงดีลข้อเสนอและทางเลือกการคืนกำไรที่หลากหลายจากเว็บไซต์และแพลตฟอร์มบนสมาร์ทโฟนของรีเบทแมงโก้ โดยเราจะมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศเพื่อมอบความคุ้มค่าแก่ผู้บริโภคมากกว่าเว็บไซต์รายอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง”
.
ฝ่าย มร.แอนโทนี ควินน์ ผู้ร่วมก่อตั้งดีดีแคชแบ็ค กล่าวว่า “หลังการพูดคุยกับมร.เจสเปอร์ และทีมงานเกี่ยวกับความร่วมมือ ผมจึงมั่นใจว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจของเรานั้นสอดคล้องกัน ดังนั้นการร่วมมือกันจึงนับเป็นเรื่องที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เรารอคอยและพร้อมที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจของเราก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นในอนาคต”
.
คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ TARAD.com และที่ปรึกษาของดีดีแคชแบ็คแสดงความเชื่อมั่นเช่นเดียวกับ มร.เจสเปอร์ โดยกล่าวว่า “การจับมือร่วมกันของอดีตคู่แข่งรายใหญ่ จะมอบโอกาสครั้งสำคัญแก่ทั้งสองฝ่ายในการเสริมสร้างความมั่นคงของบริษัทและผู้ใช้งานจำนวนมากในประเทศไทย โดยปัจจุบัน การใช้จ่ายผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และรีเบทแมงโก้ถือว่ามีตำแหน่งทางการตลาดที่ดีเยี่ยมในการใช้โอกาสจากการเติบโตนี้เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรายสำคัญในอุตสาหกรรม”